ภูมิแพ้ที่ตา

ศูนย์สายตา ไฮลักซ์ วิชั่น 

ภูมิแพ้ที่ตา

โรคภูมิแพ้ เป็นโรคที่เกิดจากร่ายกายมีความไวต่อสิ่งผิดปกติสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งเรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ สารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้มีมากมายหลายชนิด เช่น

เกสรดอกไม้

ขี้ฝุ่น

ขนของสัตว์เลี้ยง

เครื่องสำอาง

น้ำหอม

ตัวไรฝุ่นในที่นอน

เชื้อราในอับชื้น

เป็นต้น

โรคภูมิแพ้ที่เกิดที่ตาชั้นนอก

เป็นโรคตาที่พบได้บ่อยที่สุดโรคหนึ่ง โดยพบได้ประมาณ 10–20% ของประชากรทั่วไป ในปัจจุบันจำนวนผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้มีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่หรือเขตอุตสาหกรรม ซึ่งมีมลพิษในอากาศสูง

ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะมีภูมิแพ้ที่จมูกร่วมด้วย และมีอาการไม่รุนแรง เพียงแค่มีอาการระคายเคือง หรือคันตาเล็กน้อย และไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน แต่ในบางรายก็อาจมีอาการรุนแรงหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ดวงตาได้

ผู้ป่วยที่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้และควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ดี รวมถึงได้รับการติดตามผลการรักษาอย่างต่อเนื่อง จะสามารถลดอัตราการเกิดอาการแพ้และการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ตาได้

สาเหตุของโรคภูมิแพ้ที่ตา

1. พันธุกรรม

ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคภูมิแพ้ จะมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้ได้มากกว่าคนทั่วไป

2. สารก่อภูมิแพ้

เช่น เกสรดอกไม้ ขนสัตว์เลี้ยง เครื่องสำอาง ตัวไรฝุ่นในที่นอน ฯลฯ

> ปัจจัยเสริมอื่น ๆ เช่น อากาศแห้ง ฝุ่นละออง หรือมลภาวะ ก็มีผลกระตุ้นให้อาการภูมิแพ้รุนแรงขึ้นเช่นกัน

ประเภทของโรคภูมิแพ้ที่ตา

แบ่งตามกลุ่มอาการแพ้ที่แสดงออกทางดวงตาชั้นนอก ได้ดังนี้:

1. เยื่อตาขาวอักเสบจากการแพ้ชนิดไม่รุนแรง (Allergic Conjunctivitis)

เป็นโรคที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมักเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น โรคหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ ฯลฯ

อาการ:

ตาแดง

คันตา

น้ำตาไหล

แสบตา

เคืองตา

หนังตาบวม

พบมากในตอนเช้าหรือกลางคืน

2. โรคภูมิแพ้ที่เกิดจากการสัมผัสคอนแทคเลนส์ (Giant Papillary Conjunctivitis)

เป็นอาการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุตาที่เปลือกตาบน โดยเฉพาะในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นเวลานาน

มักพบในผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์อ่อนนิ่มเป็นเวลาหลายปี

สัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น น้ำยาล้างเลนส์ที่มีสารเคมีบางชนิด

ทำให้เกิดตุ่มนูนแดงขนาดใหญ่ใต้เปลือกตาบน

หมายเหตุเพิ่มเติม:

โรคภูมิแพ้ที่ตาแม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตและการมองเห็นในระยะยาวได้ จึงควรพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจและรักษาอย่างเหมาะสม