เบาหวานทำให้ตาบอด

ศูนย์สายตา ไฮลักซ์ วิชั่น 

 

เบาหวานทำให้ตาบอด

 

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ หรือเก็บสะสมน้ำตาลได้ตามปกติ ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง เป็นผลให้มีการเปลี่ยนแปลงทางเส้นเลือดของอวัยวะต่าง ๆ รวมทั้งที่ดวงตาด้วย ผลจากเบาหวานที่ตาเกิดขึ้นพร้อมกับเบาหวานเป็นต้นตอหรือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียการมองเห็นหรือทำให้ตาบอดถาวร

 

โรคเบาหวานขึ้นตาหรือเบาหวานขึ้นตาจึงได้รับการขนานนามว่า "เบาหวานทำให้ตาบอด" เป็นสาเหตุที่สำคัญของการสูญเสียการมองเห็นในประเทศไทยและในโลก โดยในผู้เบาหวานหลายรายที่ยังไม่รู้ตัวว่าตนเองเป็นโรค หรือเป็นแล้วแต่ไม่รักษา จะมีเส้นเลือดที่จอตาเกิดเปลี่ยนแปลง ประมาณร้อยละ 25 ภายในเวลา 5 ปี และมากกว่าร้อยละ 60 ในเวลา 10 ปี

 

เส้นเลือดฝอยที่จอตาตีบตันหรือโป่งพอง ผนังเส้นเลือดบางลงจนทำให้มีเลือดหรือสารเหลืองรั่วออกมาในจอตา ทำให้จอตาบวม การมองเห็นจะค่อย ๆ ลดลงอย่างช้า ๆ

 

โรคเบาหวานขึ้นตานี้แบ่งเป็น 2 ระยะ ได้แก่

ระยะที่ 1 เป็นระยะเริ่มต้นที่มีการเปลี่ยนแปลงของผนังเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงจอตา เช่น มีเม็ดเลือดแดงรั่วออกมา มีน้ำเหลืองรั่ว ไขมันซึมออกในจอตา ทำให้จอตาบวม ขาดออกซิเจน และหากมีความผิดปกติมากจะเกิดเส้นเลือดใหม่ที่ผิดปกติ งอกออกมาที่จอตา ซึ่งเส้นเลือดใหม่เหล่านี้เปราะและแตกง่าย ส่งผลให้เลือดออกในวุ้นตา หรือในช่องลูกตา ทำให้ตาบอดได้

 

ระยะที่ 2 เป็นระยะที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเส้นเลือดผิดปกติงอกเข้าไปในวุ้นตา อาจทำให้เกิดพังผืดดึงรั้งจอตา และจอตาหลุดลอกได้

 

ผู้ที่เป็นเบาหวานขึ้นตารุนแรงจะเริ่มมีอาการเห็นจุดดำคล้ายหยากไย่ลอยไปมา เห็นเงาดำคลุมตรงกลางภาพ เห็นแสงวาบ หรือเห็นเงาแสงไม่ชัด เหล่านี้คือสัญญาณเตือนว่าควรไปพบจักษุแพทย์โดยด่วน

 

การตรวจวินิจฉัย

 

เบาหวานขึ้นตาเป็นโรคที่อาจอยู่ภายในลูกตา ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยตนเอง ผู้ป่วยเบาหวานจึงจำเป็นต้องได้รับการตรวจตาจากจักษุแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยมีวิธีตรวจดังนี้

 

ซักถามอาการ

 

วัดสายตา

 

วัดความดันตา

 

หยอดยาขยายม่านตา

 

ใช้กล้องส่องจอตา

 

ตรวจพิเศษด้วยการฉีดสีฟลูออเรสซีน (เฉพาะบางกรณี)

 

หากตรวจแล้วไม่พบเบาหวานขึ้นตา แพทย์จะนัดตรวจซ้ำทุก 6 หรือ 12 เดือน

 

แนวทางการรักษา

 

ถ้ามีเบาหวานขึ้นตาในระยะที่เหมาะสม แพทย์จะรักษาด้วยเลเซอร์เพื่อป้องกันไม่ให้จอตาถูกทำลายไปมากกว่านี้ การรักษานี้ช่วยลดความเสี่ยงในการตาบอดได้มาก

 

ในกรณีที่มีเลือดออกในวุ้นตา แพทย์อาจใช้การผ่าตัดวุ้นตา (vitrectomy) เพื่อเอาเลือดและพังผืดออก หรือหากเส้นเลือดใหม่งอกเข้าไปในจุดสำคัญ เช่น จุดภาพชัด (macula) การใช้เลเซอร์หรือยาฉีดเข้าตาอาจไม่ได้ผล ต้องอาศัยการผ่าตัดร่วมด้วย

 

ข้อควรระวังระหว่างการรักษาด้วยเลเซอร์

 

ห้ามขยี้ตาแรง ๆ

 

ห้ามหยุดหยอดยาขยายม่านตา

 

ไม่ควรออกกำลังกายหนักในวันนั้น

 

ควรนอนพักสายตาหลังทำเลเซอร์ 4 ชั่วโมง

 

หากปวดตาสามารถทานยาแก้ปวดได้

 

ผลของการรักษา

 

หากผู้ป่วยเบาหวานได้รับการรักษาตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะสามารถชะลอการสูญเสียการมองเห็น และป้องกันไม่ให้ตาบอดได้ แต่หากปล่อยให้โรคดำเนินไปจนเข้าสู่ระยะท้าย แม้จะรักษาแล้ว การมองเห็นที่สูญเสียไปแล้วมักไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาได้

Visitors: 1,674