ตาเขหรือตาเหล่ Strabismus
ศูนย์สายตา ไฮลักซ์ วิชั่น
ตาเขหรือตาเหล่ Strabismus
เด็กบางครั้งมองแล้วดูเหมือนตาเหล่ เป็นเพราะช่วงที่เด็กยังเล็กมาก จมูกยังไม่มีดั้งสูงคงแบบกว้าง
เมื่อทารกโตขึ้นเริ่มมีสันจมูกโด่งขึ้น หนังตาเริ่มเปิดสองข้างขึ้น
เป็นลักษณะการเห็นที่ดูเหมือนตาเหล่ก็จะหายไป
แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ
ถ้าพบว่าดวงตาของลูกดูทิศทางผิด ควรปรึกษาแพทย์
เพราะถ้ามีตาเหล่จริงๆ ดำตานั้นจะไม่ได้ใช้งาน ทำให้สายตาไม่พัฒนา
มีโอกาสเกิดตาขี้เกียจขึ้นได้
ในระยะแรกเกิด 2–3 เดือนแรกของทารก บางครั้งแพทย์อาจบอกว่า
ดวงตาโฟกัสภาพยังไม่เหมือนปกติ
แต่หลังจาก 4 เดือนขึ้นไปแล้ว ตาควรจะตรงเสมอกัน
ถ้ายังมีการเหล่ออกข้างไปข้างหนึ่ง
เราถือว่าตาผิดแนว ต้องรีบเข้าพบจักษุแพทย์
การทดสอบง่าย ๆ
การทดสอบว่าลูกตาเหล่หรือตาเปล่า
โดยการใช้ไฟฉายอ่อนเล็กที่ไฟไม่จ้ามาก
ส่องไปที่ดวงตาทั้งสองข้างในระยะประมาณ 30 เซนติเมตร
แล้วสังเกตบริเวณกระจกตาจะตกลงบนกลางรูม่านตาทั้งสองตา
แสดงว่าดาไม่เหล่
ถ้าแสงสะท้อนบริเวณกระจกตาของตาซ้ายตกลงบนขอบรูม่านตาด้านข้าง
จะเรียกว่าตาเหล่เข้า
ในทางตรงกันข้าม
หากแสงสะท้อนบนกระจกตาของตาซ้ายมาตกลงบนขอบรูม่านตาด้านนอก
จะเรียกว่าตาเหล่ออก
ถ้าลูกของเราตาเหล่ ควรคิดถึงอะไรบ้าง
แน่นอนเมื่อพบว่าลูกตาเหล่ ท่านไม่ควรนิ่งนอนใจ
มีหลายโรคที่ควรจะรีบถึงที่สามารถทำให้ตาเหล่ได้ เช่น
• ต้อกระจกตั้งแต่เกิด
• เนื้องอกในลูกตา
• ภาวะจอตาผิดปกติ
• โรคเส้นประสาท
ซึ่งในเด็กจะทำให้ตาเหล่ในรูปแบบเฉพาะ
บางครั้งเหล่เข้า เหล่ออก ขึ้นลง หรือตามองคนละทิศ
ดังนั้นหากพบว่าตาเหล่จริง ต้องรีบพาไปพบจักษุแพทย์โดยด่วน
เพื่อให้การรักษาทันเวลา
เพราะถ้ารอให้เด็กโตขึ้น อาจไม่มีโอกาสฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติได้